ตลาดซื้อขายนักเตะกำลังเดือดระอุ เมื่อสื่อจากตุรกีโหมกระหน่ำว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บรรลุข้อตกลงคว้าตัว วิคเตอร์ โอซีเมน กองหน้าทีมชาติไนจีเรียไปร่วมทัพในฤดูกาลหน้าเรียบร้อยแล้ว โดยมีรายงานระบุว่า “โอซีเมนเซ็นสัญญาล่วงหน้า” กับ “ปีศาจแดง” เสร็จสรรพ พร้อมค่าฉีกสัญญามหาศาลถึง 63 ล้านปอนด์ เรื่องนี้จริงแค่ไหน คอลูกหนังทั่วโลกกำลังลุ้นระทึก

กระแสข่าวดังกล่าวถูกจุดประกายโดย เซอร์ด้า อาลี เซลิกเลอร์ ผู้สื่อข่าวสายกีฬาแห่ง Sportz ประเทศตุรกี ที่เปิดเผยว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ปิดดีลกับ โอซีเมน อย่างลับ ๆ เป็นที่เรียบร้อย เตรียมเปิดตัวสวมเสื้อ “เร้ด เดวิลส์” ในซีซั่นหน้า เพื่อหวังเสริมคมในแดนหน้าอย่างเร่งด่วน หลังจากผลงานของแนวรุกชุดปัจจุบันยังไม่ตอบโจทย์ในฤดูกาลนี้

สำหรับ โอซีเมน วัย 26 ปี ปัจจุบันถูก นาโปลี ปล่อยยืมตัวให้กับ กาลาตาซาราย ในลีกตุรกี หลังเจ้าตัวแสดงความชัดเจนว่าต้องการย้ายออกจากถิ่น สตาดิโอ ดีเอโก้ อาร์มันโด มาราโดน่า โดยไม่ต้องการลงเล่นใน เซเรีย อา อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีอ็อปชั่นซื้อขาดติดอยู่ในสัญญา แต่ผลงานที่ฝากไว้กับ กาลาตาซาราย ก็ร้อนแรงเกินห้ามใจ หลังซัดไปแล้ว 29 ประตูจาก 34 นัดรวมทุกรายการ กลายเป็นขวัญใจแฟนบอลเติร์กในเวลาอันรวดเร็ว

ความโดดเด่นของ โอซีเมน ทำให้บรรดายักษ์ใหญ่ในยุโรปจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังประสบปัญหาเกมรุกฝืดเคืองอย่างหนัก สื่ออังกฤษอย่าง ทีมทอล์ค ยังเสริมข้อมูลเพิ่มเติมว่า “ปีศาจแดง” อาจพิจารณาขายสองหัวหอกอย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์ และ โจชัว เซิร์กซี่ เพื่อนำเงินไปสมทบทุนล่าตัว โอซีเมน มาสวมเสื้อหมายเลข 9 คนใหม่ประจำถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

ตามรายงานระบุว่า นาโปลี ตั้งค่าฉีกสัญญาของ โอซีเมน ไว้ที่ 63 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ แมนยู ยินดีจะจ่าย หากได้หัวหอกระดับเวิลด์คลาสมาครองตามเป้า ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าแข้งไนจีเรียนรายนี้พร้อมแล้วที่จะก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์หน้าตัวความหวังคนใหม่ของ “ปีศาจแดง” ในการลุ้นความสำเร็จฤดูกาลหน้า

อย่างไรก็ตาม แม้ข่าวจากฝั่งตุรกีจะโหมกระแสแรง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือจากตัวแทนของ โอซีเมน ว่าดีลดังกล่าวเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วหรือไม่ ต้องรอติดตามกันต่ออย่างใกล้ชิดในช่วงเปิดตลาดซัมเมอร์นี้ว่า “ว่าที่ดีลระเบิดโลก” จะเป็นเรื่องจริงหรือแค่เสียงลือเสียงเล่าอ้าง

ติดตามทุกการเคลื่อนไหวสุดเข้มข้นของตลาดนักเตะ รวมถึงข่าวอัปเดตแมนยูแบบเกาะติดทุกเสี้ยววินาทีได้ที่ พรีเมียร์ลีก GOALSIAM