ศึกชี้ชะตาในรายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2024/25 รอบก่อนรองชนะเลิศที่สนาม คิงส์ อับดุลลาห์ สปอร์ต ซิตี้ สเตเดี้ยม ลงเอยด้วยความเจ็บปวดของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อโดน อัล อาห์ลี ทีมแกร่งจากซาอุดิอาระเบีย ไล่ถล่มแบบไร้ปรานี 3-0 พร้อมคว้าตั๋วผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปพบกับเพื่อนร่วมลีกอย่าง อัล ฮิลาล ในวันที่ 29 เมษายน 2568
ก่อนเกมใหญ่ในค่ำคืนนั้น เนวิน ชิดชอบ บิ๊กบอสแห่งทัพ “ปราสาทสายฟ้า” ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยความภาคภูมิใจว่ามูลค่าทีมของ อัล อาห์ลี สูงกว่าบุรีรัมย์ถึง 15 เท่า แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาทะลุมาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ ไม่ใช่ตัวเลขราคา แต่คือ “หัวใจ” ที่ไม่ยอมแพ้และความมุ่งมั่นที่ยิ่งใหญ่เกินตัว
ทว่าความแตกต่างในสนามกลับสะท้อนออกมาอย่างหมดเปลือก เมื่อเสียงนกหวีดสุดท้ายดังขึ้น พร้อมกับตัวเลขสถิติจากเว็บไซต์ทางการของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) ที่เผยให้เห็นว่าช่องว่างระหว่างทั้งสองทีมไม่ใช่เรื่องของโชค แต่เป็นเรื่องของคุณภาพในทุกตารางนิ้วของเกม
สถิติสุดโหด อัล อาห์ลี vs บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด:
- ครองบอล: อัล อาห์ลี 66.10% | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 33.90%
- จำนวนผ่านบอล: อัล อาห์ลี 571 ครั้ง | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 287 ครั้ง
- ความแม่นยำในการผ่านบอล: อัล อาห์ลี 90.50% | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 76%
- โอกาสยิงทั้งหมด: อัล อาห์ลี 17 ครั้ง | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 6 ครั้ง
- ยิงตรงกรอบ: อัล อาห์ลี 5 ครั้ง | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2 ครั้ง
- ยิงนอกกรอบ: อัล อาห์ลี 5 ครั้ง | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2 ครั้ง
- ยิงในกรอบเขตโทษ: อัล อาห์ลี 12 ครั้ง | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 4 ครั้ง
- จำนวนครอสบอล: อัล อาห์ลี 18 ครั้ง | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 12 ครั้ง
- อัตราความสำเร็จของการครอสบอล: อัล อาห์ลี 38.90% | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 33.30%
- เตะมุม: อัล อาห์ลี 5 ครั้ง | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 4 ครั้ง
- ฟาวล์: อัล อาห์ลี 9 ครั้ง | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 8 ครั้ง
- ใบเหลือง: อัล อาห์ลี 0 ใบ | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 3 ใบ
- ใบแดง: ไม่มีทั้งสองฝ่าย
ตัวเลขทั้งหมดนี้สะท้อนชัดเจนว่า อัล อาห์ลี กุมความได้เปรียบเหนือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในทุกด้านอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการครองบอลที่สูงกว่าเท่าตัว จำนวนการผ่านบอลที่แม่นยำราวจับวาง และโอกาสยิงที่สร้างแรงกดดันตลอดทั้งเกม ขณะที่บุรีรัมย์พยายามสู้ด้วยใจเกินร้อย แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับในความห่างชั้นที่ถูกตีแผ่ออกมาแบบหมดจด
ถึงแม้ผลการแข่งขันจะทำให้แฟนบอลไทยต้องกล้ำกลืนความผิดหวัง แต่การที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สามารถทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ ก็ยังถือเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่น่าภาคภูมิใจ แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการอย่างต่อเนื่องของฟุตบอลไทยบนเวทีเอเชีย และยืนยันได้ว่า “หัวใจที่ยิ่งใหญ่” นั้นมีอยู่จริง แม้จะยังต้องสะสมประสบการณ์เพื่อก้าวไปสู่ระดับที่สูงขึ้นในอนาคต
ฟุตบอลไทย GOALSIAM จะติดตามทุกย่างก้าวของวงการลูกหนังไทยและเอเชียอย่างใกล้ชิด อย่าลืมติดตามเราเพื่อไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว!