แม้กระแสข่าวการย้ายทีมจะยังไม่มีบทสรุปชัดเจน แต่สิ่งที่ชัดเจนเกินกว่าคำพูดคือฟอร์มอันดุดันของ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ดาวยิงวัย 22 ปี ที่นับตั้งแต่หวนกลับจากเบลเยียมก็ยังคงเป็นอาวุธเด็ดของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่างไม่ลดความเฉียบคม ล่าสุด “ปราสาทสายฟ้า” ได้ออกเดินทางไปยังประเทศซาอุดิอาระเบียเรียบร้อยแล้ว เพื่อทำศึกสำคัญในรายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิท 2024/25 รอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งพวกเขาจะต้องพบกับ อัล อาห์ลี ยักษ์ใหญ่จากลีกโปรซาอุฯ ในวันที่ 26 เมษายนนี้ เวลา 23.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่องยูทูป BG SPORTS

ท่ามกลางการจับตาเรื่องความพร้อมของขุมกำลังทั้งหมด คำถามที่แฟนบอลไทยอยากรู้มากที่สุดคือ “ศุภณัฏฐ์ พร้อมลงสนามหรือไม่?” หลังเจ้าตัวมีปัญหาอาการบาดเจ็บจากเกมในลีกภายในประเทศ แต่ถ้าดูจากฟอร์มก่อนเจ็บ ต้องบอกเลยว่าแข้งรายนี้คือคนที่พาเกมบุกของบุรีรัมย์ทะลวงตาข่ายได้อย่างไร้ปราณี

นับตั้งแต่กลับมาจากการค้าแข้งกับ โอเอช ลูเวิน สโมสรในลีกเบลเยียม ดาวเตะทีมชาติไทยรายนี้ก็กลายเป็นคีย์แมนในแนวรุกทันที โดยตลอดการลงสนามให้กับต้นสังกัดและทีมชาติรวม 20 นัด เจ้าตัวทำไป 11 ประตู 7 แอสซิสต์ รวมทุกรายการ ทั้ง ไทยลีก, เอฟเอ คัพ, ลีกคัพ, ศึกชิงแชมป์สโมสรอาเซียน และ ACL Elite

นี่คือรายละเอียดผลงานเด่นของ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา หลังกลับจากยุโรปที่ยืนยันความคมชัดระดับเพชรของเขา

  • 8 ธ.ค. 67: ทีมชาติไทย ถล่ม ติมอร์ เลสเต 10-0 (AFF แชมเปี้ยนส์ชิพ) ยิง 2, จ่าย 2
  • 17 ธ.ค. 67: ทีมชาติไทย ชนะ สิงคโปร์ 4-2 ยิงตีเสมอ 2-2 และแอสซิสต์ 1
  • 30 ธ.ค. 67: ยิงปิดกล่องให้ไทยชนะ ฟิลิปปินส์ 3-1 ในนาทีท้าย
  • 15 ม.ค. 68: ยิง 1 จ่าย 1 เกมถล่ม เชียงราย 8-0
  • 19 ม.ค. 68: ซัดแฮตทริก + 3 แอสซิสต์ เกมชนะ ขอนแก่น 9-0
  • 26 ม.ค. 68: ยิงประตูพลิกเกม นำทีมชนะ นครปฐม 2-1
  • 12 ก.พ. 68: ยิงประตูชัยในเกมดวล อุลซาน ฮุนได 2-1 (ACL)
  • 11 มี.ค. 68: ยิงประตูโค่น ยะโฮร์ 1-0 ส่งทีมเข้ารอบ 8 ทีม ACL
  • 25 มี.ค. 68: แอสซิสต์ให้ทีมชาติไทยชนะ ศรีลังกา 1-0
  • 29 มี.ค. 68: ยิงประตูตัดสินให้บุรีรัมย์ชนะ ระยอง 2-1
  • 6 เม.ย. 68: ยิงประตูเบิกร่องในเกมชนะ สุโขทัย 2-1
  • 9 เม.ย. 68: เรียกจุดโทษให้ทีมชนะ เชียงราย 2-1 (เอฟเอ คัพ)
  • 12 เม.ย. 68: ยิง 1 ประตูแม้ทีมแพ้ บีจี ปทุม 1-2

ด้วยฟอร์มอันร้อนแรงและบทบาทที่สำคัญในทุกเกมที่ลงสนาม ศุภณัฏฐ์กลายเป็นนักเตะที่ “ยิงเมื่อจำเป็น” อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนเกมในนาทีสำคัญ การปิดจ๊อบให้ทีมคว้าชัย หรือแม้แต่การสร้างสรรค์จังหวะจากจุดโทษ ล้วนแต่เป็นบทบาทที่เจ้าตัวทำได้แบบไม่มีข้อกังขา

และหากเจ้าตัวฟิตพร้อมทันเกมเจอกับ อัล อาห์ลี ในวันที่ 26 เม.ย.นี้ แฟนบอลไทยทั้งประเทศคงคาดหวังได้ว่าเขาอาจจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะพา “ปราสาทสายฟ้า” ก้าวสู่รอบรองฯ ของ ACL ได้อย่างยิ่งใหญ่

ติดตามภารกิจของ ศุภณัฏฐ์ และความเคลื่อนไหวของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บนเวทีเอเชียได้อย่างใกล้ชิด พร้อมบทวิเคราะห์เข้มข้นทุกมุมสนามได้ที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM ที่เดียวจบ ครบทุกเกมใหญ่

Categorized in:

ฟุตบอลไทย,